ทำไมต้องเจล ?
จากผลงานวิจัยการ ดูดซึมของอาหารเสริมรูปแบบเจล และ การเพิ่มสมรรถภาพของร่างกายกับอาหารเสริมแบบเจล
โดยอาหารเสริมแบบเจล ดีกว่า แบบเม็ด 5เท่า
จากการวิจัยของ ม.มหิดล และ ม.แม่ฟ้าหลวงมหาวิทยาลัยชั้นนำ ในด้านการแพทย์และการชะลอวัย

จากงานวิจัยเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ระหว่างผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารแบบเม็ด และเเบบเจล
พบว่า " แบบเจล " ดีกว่า แบบเม็ด ถึง 5 เท่า
สุขภาพดีด้วยสารอาหารในรูปแบบเจล ทานง่าย สะดวก อร่อย
การดูแลสุขภาพของคุณเป็นแบบไหน ? คุณเลือกได้ !! รับชม วีดีโอ นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ แห่ง โลกอนาคต
“ผลลัพธ์ในภาพเป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคล… ผลลัพธ์การช่วยเรื่องสุขภาพของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน”
ยารูปแบบเม็ดนั้นเป็นรูปแบบพื้นฐานของอาหารเสริม
สารอาหารแบบเม็ดนั้นมีหลากหลายขนาดและรูปร่าง เพื่อให้แยกแยะชนิดกันได้ ปกติแล้วเม็ดที่มีขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า มักจะเป็นวิตามิน หรือสมุนไพรที่มีปริมาณสารออกฤทธิ์สูง
นอกจากการใช้สารเคมีมากมายในกระบวนการผลิตแล้ว สารอาหารแบบเม็ด ยังมีข้อเสียอื่นๆอีก สารอาหารแบบเม็ดนั้น ถูกออกแบบมาให้แตกออกหลังจากถูกกลืนลงไปแล้ว โดยเม็ดยาจะแตกออก (ถูกย่อย) ภายใน 30 – 45 นาทีด้วยกรดในกระเพาะอาหาร ผลรวมของเม็ดของสารอาหารนั้น ยังคงอยู่แม้กระบวนการย่อยจะเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอาจจะใช้เวลาถึง 1 – 3 ชั่วโมง ก่อนที่สารออกฤทธิ์จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด
Click ชมวิดีโอการกินยาเม็ดแบบผิดๆ อาจก่อให้เกิดพิษต่อร่างกายได้ จากรายการ Spong ฉลาดสุดๆ ของ ส.ท.ว.ท
ความแตกต่างของรูปแบบสารอาหาร เม็ด ผง น้ำ เจล
สารอาหารในรูปแบบเม็ด
แบบเม็ดนั้นเป็นรูปแบบพื้นฐานของอาหารเสริม สารอาหารแบบเม็ดนั้นมีหลากหลายขนาดและรูปร่าง เพื่อให้แยกแยะชนิดกันได้ ปกติแล้วเม็ดที่มีขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า มักจะเป็นวิตามิน หรือสมุนไพรที่มีปริมาณสารออกฤทธิ์สูง
นอกจากการใช้สารเคมีมากมายในกระบวนการผลิตแล้ว สารอาหารแบบเม็ด ยังมีข้อเสียอื่นๆอีกสำหรับการกลืนสารอาหารแบบเม็ดเข้าปากนั้น เป็นปกติสำหรับ เด็ก วัยรุ่น และผู้สูงอายุ ที่จะมีปัญหากับการกลืน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านกายภาพ หรือทางด้านจิตใจ ประมาณ 40% ของประชากรโลกจะมีปัญหานี้
สารอาหารแบบเม็ดนั้น ถูกออกแบบมาให้แตกออกหลังจากถูกกลืนลงไปแล้ว โดยเม็ดยาจะแตกออก (ถูกย่อย) ภายใน 30 – 45 นาทีด้วยกรดในกระเพาะอาหาร ผลรวมของเม็ดของสารอาหารนั้น ยังคงอยู่แม้กระบวนการย่อยจะเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอาจจะใช้เวลาถึง 3 – 4 ชั่วโมง ก่อนที่สารออกฤทธิ์จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด
สารอาหารแบบผง
สารอาหารแบบผงนั้น จะเป็นผงแห้งๆ ออกแบบมาให้ผสมกับน้ำ, นม, น้ำผลไม้, หรือของเหลวอื่นๆ แต่ในที่ที่มีความชื้นสูง เช่นในประเทศไทย สารอาหารแบบผง จะดูดเอาความชื้นจากในอากาศได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ระยะเวลา ในการเก็บรักษาสั้นลง
ข้อเสียที่สำคัญของสารอาหารแบบผงคือ จำเป็นต้องมีของเหลวที่ใช้ผสม ไม่ว่าจะเป็น น้ำ, นม, น้ำผลไม้ ซึ่งจะเป็นอันตรายยิ่งกว่านั้น ถ้าสูดเอาผงที่ฟุ้งกระจาย ระหว่างที่ตักสารอาหาร หรือระหว่างที่ผสม นอกจากนี้ยังต้องการอุปกรณ์ ในการตวงและผสม ต้องล้างภาชนะทุกครั้ง รวมถึงคราบสกปรกที่จะเกิดขึ้นถ้าทำหกระหว่างชง
สารอาหารแบบน้ำ
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบน้ำนั้น ได้นำเข้าผลไม้จากต่างประเทศบางชนิด มาบดและผสมน้ำหรือน้ำผลไม้ ซึ่งส่วนใหญ่ จะบรรจุอยู่ในขวดแก้ว ขนาด 1 ลิตรแต่โชคไม่ดีที่สารอาหารแบบน้ำที่ผลิตจากผลไม้ทั้งลูกนั้น จะไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกัน โดยจะมีส่วนผสมของเปลือก เมล็ด และเนื้อผลไม้ ที่ถูกปั่นแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านั้น ไม่ละลายน้ำ
เพียงแค่ 30 นาทีหลังจากบรรจุขวดด้านล่างของขวดจะเต็มไปด้วยตะกอน ที่เป็นส่วนของเมล็ด เปลือก และเนื้อผลไม้ โดยปริมาณหรือตะกอน ในแต่ละขวดก็ไม่ค่อยเท่ากัน ซึ่งตะกอนเหล่านั้น ทำให้สารอาหารแบบน้ำ จำเป็นต้องเขย่า ให้เข้ากันดีก่อนดื่ม ซึ่งคำเตือนเหล่านี้ จะปรากฏให้เห็นบนฉลาก
ถ้าไม่ได้เขย่าให้เข้ากันก่อนดื่ม สิ่งที่ได้ก็คือ สารอาหารที่มีความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ต่ำ ด้านบนของขวด และสารอาหาร ที่มีความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์สูง ด้านล่างของขวด(ส่วนใหญ่จะอยู่ในตะกอน) ซึ่งทำให้ได้รับสารอาหาร ไม่เท่ากันในแต่ละครั้ง ซึ่งเป็นข้อเสียของสารอาหารแบบน้ำ
และถ้าดูที่ฉลากจะเห็น คำเตือนอีกอย่าง “แช่เย็นหลังจากเปิดขวด” ในอากาศนั้น เต็มไปด้วยแบคทีเรีย ที่ทำให้อาหารเน่าเสีย ซึ่งง่ายต่อการปนเปื้อนลงในเครื่องดื่ม ทุกครั้งที่เปิดขวด แบคทีเรียสามารถเติบโต ได้อย่างรวดเร็วที่อุณหภูมิห้อง เมื่อขวดเครื่องดื่ม ถูกลืมเอาไว้นอกตู้เย็น
ดังนั้นสารกันเสีย จึงถูกนำมาใช้ในปริมาณที่สูง เพื่อป้องกันการเติบโต ของแบคทีเรีย สารอาหารแบบน้ำส่วนใหญ่ จะบรรจุอยู่ในขวดขนาดใหญ่ ทำให้ไม่สะดวก ในการพกพา และจำเป็นต้องแช่ตู้เย็น ยากที่จะพกพา ไปที่ทำงาน ระหว่างเดินทาง หรือท่องเที่ยว ซึ่งไม่สะดวก และปริมาณสารอาหารที่ได้รับ แต่ละครั้ง ก็ไม่แน่นอนอีกด้วย
สารอาหารรูปแบบเจล
สารอาหารในรูปแบบเจลนั้น
“ไม่เหมือนใคร” และ “ไม่มีใครเหมือน”
เทคโนโลยีของสารอาหาร ในรูปแบบเจลนั้นถูกพัฒนาให้เกิดสภาวะระดับไมโคร ที่บรรจุสารอาหารเอาไว้ข้างในสารอาหารรูปแบบเจลนั้นกลืนง่าย และพกพาสะดวก และเป็นการง่ายที่จะแบ่งปันสิ่งที่ดีให้คนรอบข้าง ซึ่งสารอาหารแบบเจลนี้จะเป็นสารอาหารที่จะได้รับความนิยมมากที่สุดใน ทศวรรษที่ 21 นี้
- ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 3 – 15 นาที
- เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100%
- สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มที่
- ให้สารอาหารในปริมาณที่แม่นยำ
- ความเข้มข้นในร่างกายคงที่
- รสชาติอร่อย รับประทานง่าย
- พกพาสะดวก
- บรรจุภัณฑ์ ช่วยคงคุณภาพของสารอาหาร
วีดีโอ คุณหมออธิบายพร้อมภาพอนิเมชั่น
ความแตกต่าง ของอาหารเสริมแบบเจล กับ เม็ด ผง น้ำ

ดังนั้นผลิตภัณฑ์ Gel Plus ( เจล พลัส )
จะเข้ามาเป็นทางเลือกที่ดีในการดูแลสุขภาพ เพราะโดดเด่นในการดูดซึมที่สูงและพกพาสะดวก รสชาติดี ทำให้ทานได้ต่อเนื่อง
“ผลลัพธ์ในภาพเป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคล… ผลลัพธ์การช่วยเรื่องสุขภาพของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน”
เจล พลัส ราคาถูก คุ้มค่าจริงหรือ!! เรื่องนี้ต้องพิสูจน์
ตัวอย่างที่ 1
Gel Plus (เจล พลัส ) ฮาร์ท HRT
HRT มีส่วนผสมจากผลงานวิจัยทางการแพทย์ ว่ามีส่วนช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ถึง7 อย่าง ได้แก่
L-Carnitine | ช่วยเพิ่มพลังให้กับหัวใจ |
Taurinet | เป็นกรดอะมิโนของหัวใจ |
CoQ-10 | ช่วยในเรื่องความดันโลหิตสูง ต่อต้านการเต้นผิดปกติของหัวใจ |
Selenium | ช่วยลดอัตราหัวใจล้มเหลว |
Policosanal | ช่วยลดคอเลสเตอรอล ไขมันเลว (LDL) |
Oyster Mushroom | ช่วยลดไขมันในเลือด |
Folic ACID | ช่วยลด HOMOCYSTEINE |
ผู้บริโภค สามารถทดสอบโดยการ search google ดูว่า Co-Q10 , L-Carnitine หรือสารอาหารตัวอื่นๆ ที่มีในตัว HRT ว่าดีอย่างไร
แต่ถ้าจะให้มั่นใจ ก็ต้องลองรับประทานดูด้วยตนเองและครอบครัว เพื่อให้เห็นผลลัพธ์เองซึ่งจะชัดเจนที่สุด เป็นหลักวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้
เพราะถ้าเราจะหาสารอาหารแยกแต่ละอย่างแบบเม็ดก็ต้องทานถึง 7เม็ด
ซึ่งเราก็สามารถตรวจสอบราคาได้ด้วยตนเอง
ยกตัวอย่าง จากยี่ห้อดังจากต่างประเทศ มีขายตามห้างดังๆ
L-CARNITINE จะตกราคาเม็ดละ 60 บาท
TAURINE จะตกราคาเม็ดละ 60 บาท
CoQ-10 จะตกราคาเม็ดละ 30 บาท
เพียงแค่ 3 ตัวรวมราคาแล้วประมาณ 150 บาท
เมื่อเทียบกับ HRT ที่ ราคาเพียง 106 บาท
ทั้งนี้ยังไม่รวมสารอาหารอีก 4 ตัวที่ HRT มีได้แก่
FOLIC ACID , SELENIUM , OYSTER MUSHROOM และ POLICOSANAL
ซึ่งหากรวมทั้งหมด ราคาน่าประมาณ 150 กว่าบาท เลยทีเดียว แต่ Gel Plus HRT ราคาเพียงแค่ 106 บาท / ซอง ทานแล้วมีโอกาสได้เงินคืนหรือทานฟรีได้ด้วย อย่างนี้แบบไหนจะดีกว่ากัน

ศึกษาวีดีโอเพิ่มเติมจาก คุณหมอ
HRT บำรุงหัวใจ และ หลอดเลือด
“ผลลัพธ์ในภาพเป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคล… ผลลัพธ์การช่วยเรื่องสุขภาพของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน”
ตัวอย่างที่ 2
Gel Plus (เจล พลัส ) เอ๊กโซ่ EXO
มีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า 1000 ชนิด
ราคาสมาชิก เฉลี่ยจะอยู่ที่ 150 กว่าบาท / ซอง ซึ่งหลายท่านอาจจะคิดว่า ราคาค่อนข้างสูง
แต่ถ้าลองเทียบกับ น้ำผลไม้ หรือ ผลไม้สกัด ตามท้องตลาดแล้วนั้น จะเห็นได้ว่า Gel Plus ไม่ได้แพงอย่างที่คิด
ตัวอย่างราคาน้ำผลไม้ และ สารสกัดจากผลไม้ ที่มีขายตามท้องตลาด
แค่เพียงไม่กี่ชนิด คุณต้องจ่ายกว่า 600 บาท ต่อวัน
แต่ Gel Plus EXO (เจล พลัส เอ๊กโซ่) จ่ายเพียง 150 บาท
คุณจะได้คุณค่าจากผลไม้มากถึง 17 ชนิด
บลูเบอร์รี่ | แครนเบอร์รี่ | อโรเนีย | โปรเมแกรนเต้ | อเซโลร่า | เอลเดอร์เบอร์รี่ |
พรุน | โนนี่ | บิลเบอร์รี่ | โวลฟ์เบอร์รี่ | ว่านหางจระเข้ | แก็ค |
ซีบัคธอร์น | มังคุด | รูอิโบ้ส | อาซาอี เบอร์รี่ | องุ่นดำ |
บริษัทที่มาจากประเทศอเมริกาเน้นทำธุรกิจระยะยาว และสำหรับเจล พลัส ณ เวลานี้ เปิดมา 10 ปี ขยายไป 69 ประเทศทั่วโลก สามารถผ่าน อย. 69 ประเทศ เป็นการกะรันตีถึงความปลอดภัยปัจจุบันเจล พลัส เปิดในเมืองไทยมา 9 ปี มีคนเข้ามาใช้สินค้ามากมาย และที่สำคัญมีบุคลากรทางการแพทย์ และคุณหมอ หลายท่านเข้ามาใช้สินค้าแล้วดีทำให้ผลิตภัณฑ์เจล พลัส โด่งดังไปทั่วโลก ณ ปัจจุบัน เพราะถูกตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำอีกจากหลายประเทศ รวมทั้งประเทศมหาอำนาจอย่าง อเมริกา ญี่ปุ่น และหลายประเทศในยุโรบ
กล่าวสรุปได้ว่า… สินค้า Gel Plus – เจล พลัส ราคาถูกกว่า และคุ้มค่า เนื่องด้วยคุณภาพสูง ดูดซึมสูง เหมาะสมกับยุคสมัยที่ต้องการความสะดวก สบาย


* These statements have not been evaluated by the Food and Drug Administration. This product is not intended to diagnose, treat, cure or prevent any disease.
“ผลิตภัณฑ์ Gel Plus เจล พลัส เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเสริมอาหาร ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค, ควรกินอาหารหลากหลายครบทั้ง 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ”